เราเคยจัดระเบียบชีวิตด้วย iPad เธอทำหน้าที่คล้ายเลขาส่วนตัว ทั้งจดบันทึก เตือนความจำ เก็บข้อมูลการเงิน และอีกจิปาถะ ทุกอย่างโอเคนะไม่ต้องพกกระดาษหรือปากกา แค่ iPad เครื่องเดียวเอาอยู่ แต่. . . อยู่มาวันหนึ่งน้องแพดเกิดงอลขึ้นมา ขอลาออกจากหน้าที่เลขา อยากกลับคืนสู่หน้าที่เดิมตอนออกมาจากโรงงาน Apple เธอจึงไม่พูดไม่จา ไม่ตอบสนอง เราเลยต้องง้อด้วยการรีเซทเธอใหม่ น้องแพดฟื้น แต่ชีวิตเราจบ 5555 ทั้งๆที่รู้ว่าเทคโนโลยีไม่เข้าใครออกใคร ก็ยังไม่มีการสำรองข้อมูล
หลังจากเหตุการณ์วันนั้น มาคิดใหม่ว่ามันคุ้มมั๊ยน้าาา ที่จะฝากผีฝากไข้ไว้กับเทคโนโลยีเพียงอย่างเดียว คิดไปคิดมา ไม่คุ้มอะ เลยตัดสินใจไปใช้บริการกระดาษกับปากกาอย่างเมื่อครั้งก่อนจะมีตังซื้ออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เลยคืนสู่สามัญด้วยการไปซื้อสมุดไดอารี่ หรือ สมุดออร์แกไนเซอร์ หรือ แพลนเนอร์ มาใช้ ตอนแรกก็จดๆ ไปด้วยดินสอ ปากกาดำ ไม่มีสีสันหรือตกแต่งหวือหวาอะไร พอใช้ไปๆ สักระยะ ก็เบื่ออะนะ มันไม่มีลูกเล่นเหมือน น้องแพด จึงไปหาแรงบันดาลใจจาก ยูทูบ อินสตาแกรม พินเทอร์เรส โอ้วววววว จึงได้พบกับโลกของคนรักแพลนเนอร์ รอช้าอะไรอยู่หละ แม้เค้าไม่เชิญเราก็จะขอเป็นส่วนหนึ่ง 5555
พอได้ไอเดียก็ ตกแต่งบ้างอะไรบ้าง ตามงบประมาณที่มี เดี๋ยวจะให้ดูวีดิโอ my planner flip through นะ สั้นๆ
เป็นแพลนเนอร์แบบห่วง ใช้มาปีกว่าๆ ก็. . . เบื่ออีกแล้ว จะซื้อใหม่ก็รู้สึกมันฟุ่มเฟือยไปหน่อยเลยลองแปลงโฉมแบบห่วง เป็นแบบเชือก คล้ายๆ Travel Notebook
ไม่ได้ถ่ายภาพตอนดึงห่วงออกมา เพราะตอนนั้นเครียดนิดๆ กลัวเสีย เราพยายามหาดูจากยูทูบว่าเค้าถอดกันยังไง แพลนเนอร์เรายี่ห้อไทยทำ(Gvinc) เลยต้องดูหลายวิดิโอประกอบกัน จนสุดท้ายก็สามารถดึงออกมาได้ และไปร้านซ่อมรองเท้า ให้เค้าเจาะรูตามยูทูบบอก แล้วก็ไปหาซื้อยางยืดที่ร้านขายผ้ามาร้อยตามตัวอย่าง
จากนั้นเตรียมสมุดบางๆ ตามขนาดปกหนัง
นำแต่ละเล่มเปิดหน้ากลางแล้วสอดร้อยในยางยืด
พอใส่สมุดแล้วหน้าตาจะเป็นแบบนี้ เบี้ยวๆหน่อยเพราะปกไม่ได้ออกแบบมาให้ใส่เชือก
แต่เราโอเค ภูมิใจมากที่ทำได้
จากนั้นก็ใส่สติกเกอร์ เพ่ิมสมุดฉีกอีกเล่มข้างหลัง
เสียบปากกาคู่ใจ เท่านี้ก็เรียบร้อย
